แท็กซี่ประท้วง เรียกร้องขึ้นราคาแท็กซี่ ชี้ไม่สอดคล้องกับต้นทุนในการเดินรถจริง แนะประชาชนเลี่ยงเส้นทางราชดำเนินนอนทั้งขาเข้าและออก เพจเฟซบุ๊ก FM91 Trafficpro ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้เลี่ยงใช้เส้นทาง ถนนราชดำเนินนอกทั้งขาเข้าและขาออก ตั้งแต่แยก จปร.ถึงแยกผ่านฟ้า หลังจากที่มีแท็กซี่ได้จอดรถข้างทางรวมตัวชุมนุมประท้วงหน้ากระทรวงคมนาคม เพื่อเรียกร้องขออัปเดตค่ามิเตอร์ โดยรอบยังสามารถเคลื่อนตัวได้
สำหรับการประท้วงในครั้งนี้นั้นเป็นการรวมตัวของคนขับแท็กซี่จาก 5 สมาคม 1 สมาพันธ์ และ 1 กลุ่ม
ประกอบด้วย สมาคมประสานงานรถรับจ้างสุวรรณภูมิ สมาคมผู้ขับรถแท็กซี่สาธารณะ สมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า สมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย สมาพันธ์แรงงานแท็กซี่ไทย และ กลุ่มแท็กซี่ทวงคืนความยุติธรรม จำนวนกว่า 200 ชีวิต เพื่อรอฟังคำตอบจากกรวงคมนาคมว่าด้วยเรื่องการขึ้นราคารถแท็กซี่
ขณะที่นายอนุวัตร ยาวุฒิ นายกสมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า กล่าวถึงการเรียกร้องครั้งนี้ว่า อัตราราคาแท็กซี่ในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับต้นทุนในการเดินรถจริง เพราะถ้าปรับขึ้น 7% จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 138 บาทต่อคันต่อวันเท่านั้นในการทำงาน 8 ชม.
ขณะที่ปัจจุบันแท็กซี่ต้องทำงาน 13-14 ชม. มีรายได้ 600-700 บาทต่อคันต่อวัน จึงขอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาปรับอัตราในค่าโดยสารตามที่แท็กซี่เสนอ เพื่อค่าโดยสารแท็กซี่เริ่มต้น 35 บาท ใช้มาตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปัจจุบันปี 2565 เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วยังใช้อัตราค่าโดยสารแท็กซี่เริ่มต้นเท่าเดิม และถ้าเทียบกับขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้มีการปรับขึ้นค่าโดยสารมาแล้ว
แพทย์แผนไทยออกโรงเตือนประชาชนในช่วงต้นตีนเป็ดบานว่า ดมกลิ่นดอกตีนเป็ดเสี่ยงหัวใจล้มเหลว ชี้เป็นกลิ่นไซยาไนด์ มีผลกับหัวใจและระบบหมุนเวียนเลือด น.ส.มยุรี บุญส่ง อายุ 35 ปี แพทย์แผนไทยชำนาญการ รพ.ตราด สาขาวัดไผ่ล้อม ออกมาเตือนประชาชนเกี่ยวกับต้นตีนเป็ดว่า สูดดอกตีนเป็ดมากๆ เป็นอันตรายถึงขนาดสามารถทำให้หัวใจล้มเหลวได้
สาเหตุที่การสูดดอกตีนเป็ดเป็นอันตรายทำให้หัวใจวายได้นั้นเนื่องจาก ดอกที่ส่งกลิ่นแรงๆ เป็นกลิ่นของไซยาไนด์ที่มีผลต่อระบบหัวใจและการหมุนเวียนของเลือดอีกด้วย หากสูดดมนาน ๆ อาจเกิดอาการเวียนหัว หน้ามืด มีอาการตึงบริเวณท้ายทอย อาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิต เพราะระบบหัวใจอาจล้มเหลวได้
น.ส.มยุรี กล่าวต่อว่า ขอเตือนประชาชนว่าหากอยู่ใกล้กับต้นตีนเป็ด ควรหลีกเลี่ยงดีที่สุด ไม่แนะนำให้สูบดม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องใส่หน้ากากอนามัยจะช่วยลดการกลิ่น และหากเกิดการเวียนหัวโดยฉับพลัน ให้ใช้ยาดม ใช้น้ำมันเหลือง ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยทาบริเวณท้ายทอย และขมับทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้เลือดลมเดินได้ตามปกติ
น้องมาวินล่าสุด กู้ภัยยุติค้นหาแล้ว หลังตามหาร่าง 15 วันไม่พบ
สถานการณ์ของ น้องมาวินล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยติดสินใจยุติการค้นหาแล้ว หลังตามหาร่างในเขื่อนศรีนครินทร์ 15 วันยังไม่พบ จากกรณีที่ น้องมาวิน วัยรุ่น 18 ตกเขื่อนที่บริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ หมู่ 5 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา และผ่านมา 15 วันยังไม่มีใครพบร่างของน้องมาวินนั้น
ล่าสุด ชัชชัย กิตติไชย ชัช ตลาดไทย หนึ่งในทีมกู้ภัย ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กแจ้งข่าวว่าทางทีมตัดสินใจยุติการค้นหาร่างน้องมาวินแล้ว ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายไม่มีการสนับสนุนจากใคร ทีมใครทีมมันดูแลกันเอง ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าที่พัก ค่าน้ำมันเรือ ค่าอาหาร
ส่วนทีมงานของตนหมดไป 2 แสนบาท ะขอขอบคุณเรือก๋วยเตี๋ยวขนาดใหญ่ที่กู้ภัยเรียกเข้ามาที่แพ วันแรกเป็นร้อยชามไม่เก็บเงินเลย ครั้งต่อไปครึ่งราคาตลอดครับ โดยร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเห็นการทำงานของกู้ภัยเลยขอทำบุญด้วย
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 15 วันที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ จากหลายจังหวัดรวมถึงหน่วยงานภาครัฐได้ระดมกำลังกันค้นหาทั้งทางผิวน้ำ ใต้ท้องน้ำ และขึ้นบินค้นทางอากาศ ขณะที่ทางแม่ของน้องมาวินและญาติๆ ร่วมกันทำกระทง และนำภาพของน้องมาวินมาใส่ในกระทง ซึ่งการลอยกระทงครั้งนี้ ถือเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันเป็นวันสุดท้าย แต่ก็ไม่พบร่างน้องมาวินและจำเป็นต้องยุติการค้นหาในที่สุด
พ่อเด็ก18ฆ่าเด็ก13 เปิดใจกับช่อง 13 รู้สึกอายอยากมุดแผ่นดินหนี เผยที่บ้านไม่ได้รวย ทำงานโรงงานหาเช้ากินค่ำ ด้านตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา
ยังเป็นกระแสร้อนกับ #เด็ก18ฆ่าเด็ก13 หรือกรณีที่ โดม วัยรุ่น 18 ปีก่อเหตุ ได้ใช้สายไฟเส้นใหญ่ฟาดไปที่ศีรษะของเด็ก 13 ปี จนทำให้เกิดอาการเลือดคลั่งในสมอง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ก่อนได้รับประกันตัว ด้วยเงิน 20,000 บาท พร้อมโพสต์ฉลอง อวดรวย ไม่สำนึกผิด ดังที่มีการรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด พ่อของโดม ได้เปิดใจกับรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์รายการข่าวชื่อดังของช่อง 3 โดย พ่อเด็ก18ฆ่าเด็ก13 หรือชาตรี บอกว่า ที่บอกว่าลูกตัวเองโพสต์กล่าวหลังทำร้ายฟลุ๊คเด็ก 13 จนเสียชีวิต บอกว่าพ่อใหญ่พ่อรวยเคลียร์ได้หมดนั้น ตนทราบข่าวแล้ว อยากแทรกแผ่นดินหนี อับอายขายหน้า ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน ไม่เข้าใจว่าเด็ก 18 ทำไมถึงกร่างได้ขนาดนั้น ทั้งๆที่ครอบครัวก็ทำงานโรงงานหาเช้ากินค่ำ ไม่มีอะไรจะกิน ไม่ได้มีเงินทองเหมือนที่ลูกประกาศเลย แค่ทำคนอื่นเสียชีวิตก็เครียดพอแล้ว ทำไมไปจับโทรศัพท์โพสต์แบบนั้น แทนที่จะสำนึก
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น